“The Basket เรื่องเล่าจากตะกร้าผัก”
เดี๋ยวนี้จะซื้อผักผลไม้ในซูเปอร์มาร์เก็ต หลายคนยังคิดแล้วคิดอีกนะคะ เพราะกลัวจะเจอแจ๊คพอตเหมือนข่าวที่ออกมาครึกโครมก่อนหน้านี้ว่ามีการสุ่มตรวจแล้วเจอผักผลไม้ปนเปื้อนสารพิษ ทั้งๆที่มีฉลากแปะอยู่โทนโท่ว่า “ออร์แกนิค” “ปลอดสารเคมี” แท้ๆ แล้วแบบนี้ผู้บริโภคอย่างเราจะเชื่อถืออะไรได้อีกมั้ยคะเนี่ย
แต่ไม่ต้องกังวลไปค่ะ
เรายังมีความหวังอยู่ ;)
เพราะวันนี้มีสุขมีเพื่อนใหม่มาแนะนำให้รู้จักกัน นั่นก็คือ “The
Basket” ตะกร้าผักผลไม้ปลอดสารเคมี จากสวนเกษตรอินทรีย์ที่คุณวางใจ
แถมยังบริการส่งความอร่อยมาให้เราถึงบ้านด้วย ว้าว!!
รอช้าอยู่ทำไม ตามมีสุขไปคุยกับทีม The Basket ถึงที่มาที่ไปของไอเดียสุดเจ๋งนี้กันเลยค่า
:)
“จุดเริ่มต้นของ The Basket”
The Basket คือการรวมตัวกันของกลุ่มเพื่อนที่มีแรงบันดาลใจและความตั้งใจอยากจะช่วยส่งเสริมชุมชนเกษตรอินทรีย์
ทั้งในเรื่องของราคาผลผลิตที่เป็นธรรมต่อเกษตรกรและผู้ซื้อ รวมถึงการสนับสนุนปัจจัยการผลิตและการลงทุนล่วงหน้า
เพื่อไม่ให้เกษตรกรต้องแบกรับทุกความเสี่ยงในการผลิตไว้เพียงผู้เดียว
“พวกเราได้มีโอกาสทำงานใกล้ชิดกับกลุ่มชาวบ้านที่ทำเกษตรอินทรีย์
เลยได้รู้ว่าอุปสรรคสำคัญคือเกษตรกรไม่รู้ว่าจะนำผลผลิตไปขายใคร ทั้งที่จริงๆแล้วสินค้าเกษตรอินทรีย์กำลังเป็นที่ต้องการของตลาดมากนะคะ
เพราะตอนนี้คนหันมาให้ความสนใจดูแลสุขภาพแล้วก็มองหาผลิตภัณฑ์ปลอดสารพิษเพิ่มมากขึ้น
เราก็เลยเห็นช่องทางที่จะช่วยให้ทั้งสองฝ่ายคือเกษตรกรและผู้บริโภคสามารถมาเจอกันได้โดยตรง
โดยที่เราจะเข้ามาช่วยเพิ่มโอกาสในการกระจายผลผลิตให้กับเกษตรกร
ส่วนผู้บริโภคเองก็มั่นใจได้ว่า ผักและผลไม้ที่คุณจะได้รับนั้นเป็นสินค้าเกษตรปลอดสารพิษแน่นอน
100%”
“กว่าจะมาเป็นตะกร้าผักผลไม้แสนอร่อย”
ก่อนจะจัดส่งความอร่อยของตะกร้าผักผลไม้ปลอดสารไปยังบ้านของสมาชิกจะต้องผ่านกระบวนการหลายอย่างทีเดียวค่ะ
เริ่มต้นจากการที่ทีม The Basket จะเข้าไปพูดคุยกับกลุ่มเกษตรกร
ว่ามีสินค้าชนิดใดบ้างที่ผู้บริโภคต้องการ, การทำปฏิทินผัก-ผลไม้,
การเยี่ยมชมแหล่งผลิตว่าได้มาตรฐานตรงตามที่กำหนดหรือไม่
หลังจากนั้นก็จะเป็นขั้นตอนของการคัดกรองควบคุมคุณภาพสินค้า
เพราะสินค้าประเภทนี้จะมีระยะเวลาที่จำกัดในการบรรจุ จัดส่งและบริโภค
“กลุ่มเกษตรกรที่เราดีลไว้จะมาจากหลากหลายที่ค่ะ
คือจะเป็นกลุ่มเกษตรกรชาวสวน ที่เรียกว่า “เครือข่ายวิสาหกิจเกษตรอินทรีย์”
ซึ่งประกอบด้วยเกษตรกร 7 กลุ่มจาก 3 จังหวัด คือ เพชรบุรี ราชบุรี และอยุธยา โดยเราจะติดต่อประสานงานกับเกษตรกรโดยตรง
ทั้งในเรื่องการปรับเปลี่ยนวิธีการเพาะปลูกจากเดิมที่เป็นเคมี
ให้เป็นเกษตรอินทรีย์ 100% รวมไปถึงการควบคุมคุณภาพสินค้าด้วย
เราจะให้ความสำคัญในเรื่องความสดใหม่และคุณภาพสินค้า ดังนั้นเราจะแจ้งให้สมาชิกทราบทุกครั้งถึงอายุหรือระยะเวลาที่เหมาะสมในการบริโภคค่ะ”
“ความอร่อยที่คุณเลือกได้”
The Basket เป็นธุรกิจที่ใช้ระบบสมาชิกเป็นหลัก
ซึ่งลูกค้าสามารถเลือกได้ตามใจว่าจะรับผักผลไม้ชนิดใดบ้างในแต่ละสัปดาห์
โดยจะแบ่งเป็น ชุดเล็ก สำหรับ 1-2 คน เลือกสินค้าได้ 8 ชนิด ชุดกลาง สำหรับ 2-4 คน เลือกสินค้าได้ 12 ชนิด และชุดใหญ่สำหรับครอบครัวขนาด 5 คนขึ้นไป
เลือกสินค้าได้ 16 ชนิด
“ตะกร้าผักผลไม้ของเราจะส่งตรงถึงบ้านสมาชิกสัปดาห์ละ
1 ครั้งค่ะ สมาชิกสามารถเลือกได้ว่าต้องการผักผลไม้อะไรบ้าง
อาจจะเป็นผักสด คละกับไข่ไก่ ข้าวสาร หรือผลไม้
แต่เมนูผักผลไม้ของเราจะเปลี่ยนตามฤดูกาลนะคะ
ผักบางชนิดที่ไม่สามารถปลูกได้ตลอดทั้งปี
เราจะแจ้งให้สมาชิกทราบล่วงหน้าเพื่อสมาชิกจะได้ปรับเปลี่ยนชนิดของผักตามต้องการได้ค่ะ”
“อยากให้ทุกคนกินดี ต้องรณรงค์อย่างจริงจัง”
ความท้าทายอย่างหนึ่งที่พบจากการทำ
The Basket คือความไม่เข้าใจของผู้บริโภค
หลายคนยังตกใจเมื่อเห็นหน้าตาของผักอินทรีย์ที่บางครั้งอาจมีหนอนกินใบจนพรุน
ไม่สวยเหมือนผักตามซูเปอร์มาร์เก็ต
“คือผักอินทรีย์จะหน้าตาไม่ดี สู้ผักที่ใช้สารเคมีไม่ได้ ซึ่งตรงนี้เรามองว่าควรมีการรณรงค์ทำความเข้าใจกับผู้บริโภคอย่างจริงจัง คือในส่วนของบรรจุภัณฑ์เราก็พยายามใช้วัสดุธรรมชาติด้วย เช่นใบตอง ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าเวลาขนส่งมันไม่ค่อยจะทนทานต่อแดดและลมเหมือนการใช้ถุงพลาสติก เก็บน้ำก็ไม่ได้ ผักก็อาจจะดูไม่สวยเท่าไหร่ ซึ่งทางเราก็กำลังทำงานตรงนี้กันอยู่ค่ะ เพื่อให้สามารถใช้วัสดุธรรมชาติได้ ขณะเดียวกับที่สามารถปกป้องพืชผักของเราได้ด้วย”
“มากกว่าสุขภาพและความอร่อย
คือแรงบันดาลใจดีๆ”
นอกเหนือจากประโยชน์ในเรื่องของสุขภาพจากการบริโภคผักผลไม้อินทรีย์แล้ว สิ่งที่ได้จากการทำธุรกิจ The Basket คือเรื่องของทัศนคติที่เปลี่ยนไป
“การได้มาทำ The Basket ได้กินอาหารดีดีจากสิ่งที่เกษตรกรเค้าตั้งใจ
ใส่ใจในทุกขั้นตอนการผลิต ทำให้เรารู้สึกซาบซึ้งในความเสียสละของเค้า ทั้งเวลา
แรงงานและแรงใจ แม้ว่าเกษตรอินทรีย์อาจจะทำรายได้ไม่ดีเท่าเกษตรทั่วไป
แต่เค้าก็ยังยืนหยัดทำเพื่อเรา”
“ความรู้สึกนี้มันทำให้เราอยากจะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกร อยากจะเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างชุมชนที่ทุกคนต่างเคารพและตระหนักในคุณค่าของกันและกัน
ซึ่งการช่วยกันซื้อสินค้าเกษตรอินทรีย์ในราคาที่เป็นธรรม
ก็จะนำไปสู่การพัฒนาเหล่านี้ได้ในอนาคตค่ะ”
ได้ฟังเรื่องราวที่เป็นแรงบันดาลใจดีดีแบบนี้แล้ว
ก็อดปลื้มและดีใจแทนพี่พี่เกษตรกรอินทรีย์ไม่ได้เลยจริงๆค่ะ
เอาเป็นว่าถ้าใครสนใจอยากร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนผลผลิตเกษตรอินทรีย์
สามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ http://thebasket.biz หรือทางเฟสบุคแฟนเพจ https://www.facebook.com/thebasket.organic นะคะ
พิเศษสุดๆ
สำหรับใครที่กำลังมองหาของขวัญปีใหม่ให้กับคนที่คุณรัก The Basket เค้าก็มี Gift
Voucher หรือบัตรของขวัญชุดผักผลไม้เกษตรอินทรีย์ให้เลือกถึง 2
แบบด้วยกัน คือแบบสีเขียว มูลค่า 1,280 บาท
และแบบสีส้ม มูลค่า 320 บาท
มาร่วมส่งต่อสุขภาพดีให้กันในวันปีใหม่นี้นะคะ
^^